วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

คุณธรรมจริยธรรมในการใช้อินเทอร์เน็ต

คุณธรรมจริยธรรมในการใช้อินเทอร์เน็ต


1.ไม่ควรให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ

2.ไม่บิดเบือนความถูกต้องของข้อมูล ให้ผู้รับคนต่อไปได้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

3.ไม่ควรเข้าถึงข้อมูลของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต

4.ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลกับผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต

5.ไม่ทำลายข้อมูล

6.ไม่เข้าควบคุมระบบบางส่วน หรือทั้งหมดโดยไม่ได้รับอนุญาต

7.ไม่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งเข้าใจว่าตัวเองเป็นอีกบุคคลหนึ่ง ตัวอย่างเช่น การปลอมอีเมล์ของผู้ส่งเพื่อให้ผู้รับเข้าใจผิด เพื่อการเข้าใจผิด หรือ ต้องการล้วงความลับ

8.การขัดขวางการให้บริการของเซิร์ฟเวอร์ โดยการทำให้มีการใช้ทรัพยากรของเซิร์ฟเวอร์จนหมด หรือถึงขีดจำกัดของมัน ตัวอย่างเช่น เว็บเซิร์ฟเวอร์ หรือ อีเมล์เซิร์ฟเวอร์ การโจมตีจะทำโดยการเปิดการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์จนถึงขีดจำกัดของเซิร์ฟเวอร์ ทำให้ผู้ใช้คนอื่นๆไม่สามารถเข้ามาใช้บริการได้

9.ไม่ปล่อย หรือ สร้างโปรแกรมประสงค์ร้าย (Malicious Program) ซึ่งเรียกย่อๆว่า (Malware) เป็นโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำการ ก่อกวน ทำลาย หรือทำความเสียหายระบบคอมพิวเตอร์
เครือข่าย โปรแกรมประสงค์ร้ายที่แพร่หลายในปัจจุบันคือ ไวรัส เวิร์ม และม้าโทรจัน

10.ไม่ก่อความรำคาญให้กับผู้อื่น โดยวิธีการต่างๆ เช่น สแปม (Spam) (การส่งอีเมลไปยังผู้ใช้จำนวนมาก โดยมีจุดประสงค์เพื่อการโฆษณา)

11.ไม่ผลิตหรือใช้สปายแวร์ (Spyware) โดยสปายแวร์จะใช้ช่องทางการเชื่อมต่อทางอินเตอร์เน็ตเพื่อแอบส่งข้อมูลส่วนตัวของผู้นั้นไปให้กับบุคคลหรือองค์กรหนึ่งโดยที่ผู้ใช้ไม่ทราบ

12.ไม่สร้างหรือใช้ไวรัส
13. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้ายผู้อื่น
14. ไม่รบกวนจนงานคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น
15. ไม่แอบดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่น
16. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อลักขโมย
17. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเป็นพยานเท็จ
18. ไม่ใช้หรือทำสำเนาซอฟต์แวร์ที่ตนไม่ได้ซื้อสิทธิ์
19. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยไม่มีอำนาจหน้าที่
20. ไม่ฉวยเอาทรัพย์ทางปัญญาของผู้อื่นมาเป็นของตน

cardit:http://sw07064.blogspot.com/2009/01/blog-post.html

วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ความหมายของเว็บไซต์

ความหมายของเว็บไซต์
เว็บไซต์ (website, web site, Web site) หมายถึงหน้าเว็บเพจหลายหน้า ซึ่งเชื่อมโยงกันผ่านทางไฮเปอร์ลิงก์ ส่วนใหญ่จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ โดยถูกจัดเก็บไว้ในเวิลด์ไวด์เว็บ


หน้าแรกของเว็บไซต์ที่เก็บไว้ที่ชื่อหลักจะเรียกว่า โฮมเพจ เว็บไซต์ โดยทั่วไป จะให้บริการต่อผู้ใช้ฟรี แต่ในขณะเดียวกันบางเว็บไซต์จำเป็นต้องมีการสมัครสมาชิกและเสียค่าบริการเพื่อที่จะดูข้อมูลในเว็บไซต์นั้น ซึ่งได้แก่ข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์หรือข้อมูลสื่อต่างๆ ผู้ทำเว็บไซต์มีหลากหลายระดับ ตั้งแต่สร้างเว็บไซต์ส่วนตัว จนถึงระดับเว็บไซต์สำหรับธุรกิจหรือองค์กรต่างๆ การเรียกดูเว็บไซต์โดยทั่วไปนิยมเรียกดูผ่านซอฟต์แวร์ในลักษณะของเว็บเบราว์เซอร์

เว็บไซต์แห่งแรกของโลก สร้างขึ้นเมื่อ 30 เมษายน พ.ศ.2536 โดยวิศวกรของเซิร์น

credit: http://th.wikipedia.org

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

website

เว็บไซต์ (อังกฤษ: website, web site, Web site) หมายถึง หน้าเว็บเพจหลายหน้า
ซึ่งเชื่อมโยงกันผ่านทางไฮเปอร์ลิงก์ ส่วนใหญ่จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ โดยถูกจัดเก็บไว้ในเวิลด์ไวด์เว็บ หน้าแรกของเว็บไซต์ที่เก็บไว้ที่ชื่อหลักจะเรียกว่า โฮมเพจ เว็บไซต์โดยทั่วไปจะให้บริการต่อผู้ใช้ฟรี แต่ในขณะเดียวกันบางเว็บไซต์จำเป็นต้องมีการสมัครสมาชิกและเสียค่าบริการเพื่อที่จะดูข้อมูล ในเว็บไซต์นั้น ซึ่งได้แก่ข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ หรือข้อมูลสื่อต่างๆ ผู้ทำเว็บไซต์มีหลากหลายระดับ ตั้งแต่สร้างเว็บไซต์ส่วนตัว จนถึงระดับเว็บไซต์สำหรับธุรกิจหรือองค์กรต่างๆ การเรียกดูเว็บไซต์โดยทั่วไปนิยมเรียกดูผ่านซอฟต์แวร์ในลักษณะของ เว็บเบราว์เซอร์

credit: http://www.o2blog.com/myblog/blog.php?month=&year=&user=mzy_mwe&page=&syear=&smonth=&sdate=&style=1&id=5168

เว็บไซต์ (Web Site)

เว็บไซต์ (Web Site)

เว็บไซต์ (Web Site) คือ เป็นแหล่งเก็บข้อมูลเว็บเพจหลายๆ เว็บเพจ แล้วรวบรวมเว็บเพจเหล่านี้เข้าด้วยกันเพื่อจัดตั้งขึ้นเป็นเว็บไซต์ โดยเว็บไซต์นั้นจะต้องมีรหัสหรือชื่อโดเมน (Domain Name) ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารเพื่อการเชื่อมโยงเข้าหาเว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ต

credit: http://www.irookie.net/blog/2008/11/19/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%95%E0%B9%8C-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0/

เว็บเซอร์วิส (Web service)

เว็บเซอร์วิส (Web service) คือระบบซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมา เพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านระบบเครือข่าย โดยที่ภาษาที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ คือ XML

เว็บเซอร์วิสมีอินเทอร์เฟส ที่ใช้อธิบายรูปแบบข้อมูลที่เครื่องคอมพิวเตอร์ประมวลผลได้ เช่น WSDL ระบบคอมพิวเตอร์ใช้งานสื่อสารโต้ตอบกับเว็บเซอร์วิสตามรูปแบบที่ได้กำหนดไว้แล้ว โดยการส่งสาสน์ตามอินเตอร์เฟสของเว็บเซอร์วิสนั้น โดยที่สาสน์ดังกล่าวอาจแนบไว้ในซอง SOAP หรือส่งตามอินเตอร์เฟสในแนวทางของ REST สาสน์เหล่านี้ปกติแล้วถูกส่งโดยอาศัย HTTP และใช้ XML ร่วมกับมาตรฐานเกี่ยวกับเว็บอื่นๆ โปรแกรมประยุกต์ที่เขียนโดยภาษาต่างๆ และทำงานบนแพลตฟอร์มต่างๆกันสามารถใช้เว็บเซอร์วิสเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เช่น อินเทอร์เน็ต ในลักษณะเดียวกับการสื่อสารระหว่างโปรเซส (Inter-process communication) บนเครื่องเดียวกัน ความสามารถในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างระบบที่ต่างกันนี้ (เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าง โปรแกรมที่เขียนโดยภาษาจาวา และโปรแกรมที่เขียนโดยภาษาไพทอน หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างโปรแกรมประยุกต์ที่ทำงานบนไมโครซอฟท์วินโดวส์และโปรแกรมประยุกต์ที่ทำงานบนลินุกซ์) เกิดขึ้นได้เนื่องจากการใช้มาตรฐานเปิด โดย OASIS และ W3C เป็นคณะกรรมการหลักในการรับผิดชอบมาตรฐานและสถาปัตยกรรมของเว็บเซอร์วิส

credit: http://www.boarddev.com/forum/index.php?topic=3458.0

Web Service

Web Service ถ้าจะมองง่ายๆ ก็คือ Service ที่ให้บริการผ่านช่องทางของ Web แต่ถ้าพูดแบบนี้อาจจะมองข้อแตกต่างจาก Web Site ทั่วไปไม่ออก หลักการโดยคร่าวของ Web Service ซึ่งโดยจุดประสงค์ของ Web Service แล้วก็คือ การทำให้ Application ตั้งแต่ 2 ตัวสามารถ สื่อสารกันได้ โดยอาศัย Interface ต่างๆ ที่เปิดให้บริการตัวอย่างเช่น ปกติ Windows จะมี ตัว Kernel อยู่ นั้นก็คือ จะมี พวก Dll ต่างๆ ให้เราเขียนโปรแกรมไปเรียกใช้ โดยการเรียกใช้ก็จะเรียกผ่าน API หรือ Interface ของมันนั่นเอง Web Service ก็เช่นเดียวกัน เพียงแต่ แตกต่างกันก็คือ Interface หรือ API ทั้งหลายเหล่านี้ จะถูกเรียกผ่านมาทางช่องทางของ HTTP Protocol นั้นก็คือ ที่มาของคำว่า Web ก็คือว่า มันต้องอาศัย HTTP Protocol เป็นช่องทางในการเรียกใช้งาน Service ต่างๆ ดังนั้น Service ต่างๆ ของเราก็คือ Function หรือ Procedure ที่เราจะให้ user มาเรียกใช้ ซึ่งก็คือคำว่า Service นั่นเอง

แต่ไม่เพียงแค่นั้น โดยจุดประสงค์ของ Web Service ก็คือ การทำให้ Application สามารถติดต่อกันได้ การที่จะติดต่อกันได้ก็ต้องมีข้อกำหนดร่วมกัน เพื่อเป็น มาตรฐาน นั้นคือ ไม่ว่า จะ เขียน Application จากภาษาใดๆ หรือ run อยู่บน OS หรือ Platform ใดๆ ก็ตาม หากใช้ มาตรฐาน ตามนี้ก็จะสามารถติดต่อกันได้ พูดถึงมาตรฐานของ Web Service ที่จะใช้ในการติดต่อกันมีข้อกำหนดของ Web Service แบบง่ายๆ ก็คือ1. ใช้ HTTP Protocol เป็น Media ในการสื่อสาร2. ใช้ XML เป็นตัวแทนของข้อมูลที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างกัน ในการสื่อสารจะมี การส่งค่าไปแล้วรับค่ากลับ หรืออาจจะไม่ต้องรับค่ากลับก็ได้ ถ้าสื่อสารทางเดียวแล้วเรื่องยุ่งๆ ก็อยู่ตรงที่ การสื่อสารกันเช่น ตัวแปร Integer หรือ String หรือตัวแปลใดๆ ก็ตาม ใน แต่ละ ภาษา แต่ละ Platform มีการกำหนด ไม่เหมือนกัน เช่น บางภาษา Integer อาจจะเป็น 16Bit Range แต่ในบางภาษาอาจจะเป็น 32Bit Range จึงต้องกำหนดมาตรฐานมารองรับ และเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักพัฒนา Web Service ว่า SOAP (Simple Object Access Protocol) ซึ่ง SOAP เองก็จะมีระบุเป็น Version เช่น SOAP 1.1 หรือ SOAP 1.2 เป็นต้น version ต่างๆ ก็จะเป็นการกำหนดวิธีการสื่อสารให้ตัว Web Service สามารถรองรับการทำงานได้มากขึ้นเช่นการทำ Binding การทำ Attach file เป็นต้น เพราะฉะนั้น ในการเขียน Web Service ก็ต้องดูด้วยว่า Application ที่เราจะไปเชื่อมต่อใช้มาตรฐาน SOAP หรือ Support SOAP version อะไร ถ้าใช้ไม่เหมือนกัน ก็อาจจะทำให้เราส่ง Request ไปแล้วมันอาจจะไม่ Response กลับหรือไม่เข้าใจความหมายที่เราส่งไปก็ได้

หลังจากที่เรามี Service แล้ว ก็มีการเขียน โครงสร้างการแทนข้อมูลด้วย SOAP แล้ว ก็จะมีปัญหาตามมาอีกว่า แล้ว Application ที่เราจะไปคุย หรือ Web Service ที่เราจะไปคุยมี บริการอะไรให้บ้าง นั้นก็คือ จะมีการทำ รายการ API ให้ดูว่ามี API อะไรบ้างให้เรียกใช้โดย จะสามารถเรียกดูผ่านทาง Web ได้เลย นั่นคือ WSDL (Web Service Description Language) ตัวนี้จะเป็นตัวบอกรายละเอียดว่า Application ที่เราจะไปเรียกใช้ให้บริการ Service อะไรบ้าง มี รูปแบบ Function ยังงัย มี Parameter แบบไหน ใช้ตัวแปรอะไร โดยจะแสดงออกมาในรูปแบบ XML

credit: http://gotoknow.org/blog/GoldenFish/60923

เว็บเซอร์วีส

เว็บเซอร์วิส (Web service) คือระบบซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมา เพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านระบบเครือข่าย โดยที่ภาษาที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ คือเอกซ์เอ็มแอล เว็บเซอร์วิสมีอินเทอร์เฟส ที่ใช้อธิบายรูปแบบข้อมูลที่เครื่องคอมพิวเตอร์ประมวลผลได้ เช่น WSDL ระบบคอมพิวเตอร์ใช้งานสื่อสารโต้ตอบกับเว็บเซอร์วิสตามรูปแบบที่ได้กำหนดไว้แล้ว โดยการส่งสาสน์ตามอินเตอร์เฟสของเว็บเซอร์วิสนั้น โดยที่สาสน์ดังกล่าวอาจแนบไว้ในซอง SOAP หรือส่งตามอินเตอร์เฟสในแนวทางของ REST สาสน์เหล่านี้ปกติแล้วถูกส่งโดยอาศัย HTTP และใช้ XML ร่วมกับมาตรฐานเกี่ยวกับเว็บอื่นๆ โปรแกรมประยุกต์ที่เขียนโดยภาษาต่างๆ และทำงานบนแพลตฟอร์มต่างๆกันสามารถใช้เว็บเซอร์วิสเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เช่น อินเทอร์เน็ต ในลักษณะเดียวกับการสื่อสารระหว่างโปรเซส (Inter-process communication) บนเครื่องเดียวกัน ความสามารถในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างระบบที่ต่างกันนี้ (เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าง โปรแกรมที่เขียนโดยภาษาจาวา และโปรแกรมที่เขียนโดยภาษาไพทอน หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างโปรแกรมประยุกต์ที่ทำงานบนไมโครซอฟท์วินโดวส์และโปรแกรมประยุกต์ที่ทำงานบนลินุกซ์) เกิดขึ้นได้เนื่องจากการใช้มาตรฐานเปิด โดย OASIS และ W3C เป็นคณะกรรมการหลักในการรับผิดชอบมาตรฐานและสถาปัตยกรรมของเว็บเซอร์วิส

cardit: http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AA

วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

http://www.web-source.net/

How to Create a Web Site: A Beginners Guide to Web Site Design

Hello and thank you for visiting Web-Source.net.

My name is Shelley Lowery and I am the owner and developer of Web-Source.net.

If you want to create your own web site on the Internet, but have no idea where to start, this article will provide you with the exact information you'll need to get started, including what you can expect to pay to get your website up and running. However, before I begin, I'd like to tell you a little bit about myself, and how I got started, so you'll know who you're dealing with.

When I started online back in 1997, I was completely overwhelmed with the Internet and had absolutely no idea where to start. I knew that I desperately wanted my own Internet business, which would require me to build my own web site, but I was very low on cash and there wasn't much information available to assist me at that time. For this reason, I knew I would have to do everything myself, which included learning how to design my own website.

I spent countless hours online researching and learning everything I could about the Internet. I went to web sites that I admired and looked at the source code (HTML code that is used to create a web page) so that I could see exactly how that site was made.

The first time I looked at all that HTML code I was completely overwhelmed. I began to feel a bit discouraged thinking maybe I was trying to take on a bit more than I could handle. However, when I began to really look closely at the coding, I began to see how things worked. It really wasn't as difficult as I thought. And the more I looked at the code and began testing different things, the more confident I became. I realized that website design really wasn't hard at all! At that time, I knew I could create a web site.


Credit:
http://www.blogger.com/post-create.g?blogID=5565558576777104921

วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

......ชื่อ นางสาวนฤมล สีหาบัตร.....
......ชื่อเล่น แนน.......
......ที่อยู่ปัจจุบัน 93\5 บ้านดงเย็น
ต.นางิ้ว อ.เขาสวนกวาง
จ.ขอนแก่น 40280
......สีที่ชอบ สีม่วง.......
......คติประจำใจ ที่เราล้มไม่ใช่เราแพ้ แต่เรากำลังเรียนรู้ต่างหาก.......